FUKUSHIMA
จังหวัดที่มีการเจริญเติบโตอย่างมาก เป็นเมืองหน้าด่านแห่งภูมิภาคโทโฮคุมาแต่โบราณ และมีสิ่งปลูกสร้างที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานมากมาย สืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน อย่างศาลานางาโทโกะแห่งศาลเจ้าชินงูคุมาโนะ และหมู่บ้านโบราณโออุจิจุคุ นอกจากนี้ยังเป็นที่รู้จักในฐานะแหล่งขุมทรัพย์ธรรมชาติ ซึ่งได้แก่ภูเขาบันได ที่ราบลุ่มโอเสะ และทะเลสาบอินาวะชิโระHaving developed as a gateway into Tohoku area from ancient times, Fukushima Prefecture has historical buildings such as Shingu-kumano Shrine and Ouchijuku. It is also known for its natural scenic spots such as Mt. Bandaisan, Oze and Lake Inawashiro.
-
1. เทศกาลแห่รองเท้าฟางวาราจิ Waraji Festival
เทศกาลหน้าร้อนแห่งฟุคุชิมะจัดขึ้นในต้นเดือนสิงหาคมของทุกปีโดยจะมีผู้คนมาร่วมแห่รองเท้าฟางวาราจิขนาดยักษ์รอบตัวเมืองเพื่อขอให้ชาวเมืองมีสุขภาพขาที่แข็งแรงเดินได้เยอะอนึ่งรองเท้าฟาง"วาราจิ"นั้นเป็นรองเท้าแบบดั้งเดิมของชาวญี่ปุ่นที่ถักขึ้นจากฟางข้าว
This major Fukushima summer festival is held every year at the beginning of August. A dozen or so people march through the city with a giant straw sandal to pray for healthy feet for its citizens. “Waraji” is the word for this traditional Japanese footwear made of rice straw.
Google Map -
2. การแข่งม้าโซมะโนะมะโอย Soma Nomanoi Festival
เทศกาลแห่งเมืองโซมะที่จัดขึ้นในปลายเดือนกรกฎาคมของทุกปีมีประวัติอันเก่าแก่ที่ย้อนไปถึงยุคคามาคุระภาพของอัศวินซามูไรในเสื้อเกราะกว่า500นายที่มาพบกันกลางสนามรบนั้นถือเป็นภาพที่ทรงพลังยิ่งนัก!แค่แวะมาชมเทศกาลนี้ก็เหมือนได้ย้อนเวลากลับไปยังยุคสงครามกลางเมืองเลยทีเดียว
Held at the end of July in Soma City, this festival originates in the Kamakura Period. The sight of over 500 armored horsemen coming together at once is impressive! It will seem as if you have traveled back to the Sengoku Period.
Google Map -
3. ทุ่งทานตะวันซันโนะคุระโคเก็น Sannokura Plateau (Sunflower Field)
ที่ทางลาดที่เคยใช้เป็นลานสกีประมาณ8เฮกตาร์แห่งนี้มีไฮไลท์อยู่ที่ต้นทานตะวันกว่าสองล้านห้าแสนต้น!ที่เบื้องหน้าแปลงดอกไม้อันสวยงามนี้คุณสามารถมองไปรอบๆพื้นที่แอ่งกระทะไอสึอันเขียวขจีได้
It is stunning to see the 2.5 million sunflowers blooming on this ski slope of around 8 hectares. Ahead of the beautiful floral carpet, you can see the deep green of Aizu Basin.
Google Map -
4. อะสึมะโคฟุจิ Mt. Azuma-Kofuji
ภูเขาสูง1,707เมตรที่มีลักษณะเด่นตรงที่ปากปล่องภูเขาไฟเป็นทรงครกเป็นสถานที่ยอดนิยมในฐานะเส้นทางเดินเขาแสนสบายสนุกไปกับการปีนเขาสั้นๆจากที่ราบโจโดะไดระขึ้นไปยังปากปล่องภูเขาไฟใช้เวลาเพียง10นาทีและจากบนยอดเราสามารถชมวิวพานอราม่า360องศาได้อีกด้วย
Featuring a big bowl-shaped crater, this 1,707m tall mountain is popular for light trekking. You can climb to the crater from Jododaira in about 10 minutes and enjoy a 360 degree panoramic view.
Google Map -
5. เบ็นเท็นนูมะ Benten-numa Lake
ทะเลสาบขนาดใหญ่อันดับ2ในทะเลสาบโกชิกินุมะมีน้ำสีน้ำเงินสวยใสโดยที่บริเวณบ่อนี้ทั้งกว้างและสดใสสามารถมองเห็นเทือกเขาอะสึมะได้อยู่ไกลๆ เรื่องที่น่าแปลกก็คือทะเลสาบภูเขาไฟที่มีความเป็นกรดสูงแห่งนี้กลับมีพืชน้ำที่สามารถเจริญเติบโตได้ดีอยู่เยอะมาก
The second largest of the 5 Goshikinuma Lakes, the surface of this lake sparkles with a beautiful blue. From here you have a clear, wide view extending to the far-off Azuma Mountains. This lake is unusual because aquatic plants grow in it even though it is an acidic crater lake.
Google Map -
6. บิชะมงนูมะ Bishamon-numa Lake
ทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในทะเลสาบโกชิกินุมะและเป็นจุดชมวิวยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวมากมายที่มาเยือนภาพปากปล่องภูเขาไฟที่ขรุขระของภูเขาบันไดที่เห็นได้จากจุดนี้ตัดกับทะเลสาบอันเงียบสงบที่มีสีน้ำเงินและสีเขียวจากแมกไม้ล้อมรอบออกมาแล้วดูเป็นภาพที่น่าประทับใจ
The largest of the 5 Goshikinuma lakes, this popular viewpoint is visited by numerous tourists. The contrast between the rough crater walls of Mt Bandai and the peaceful, sparkling, tree-bordered turquoise lake is impressive.
Google Map